Privacy Policy

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอสทีแอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัทในเครือ (“บริษัท”) เข้าใจและตระหนักว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลสำคัญ และเป็นสิทธิความเป็นส่วนตัวที่สมควรได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อบริษัทฯได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประกอบการติดต่อสอบถาม ขอใบเสนอราคา การสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ ขอความช่วยเหลือ การถามคำถาม หรือการร้องเรียนให้คำติชมใดๆ แก่บริษัทผ่านช่องทางการติดต่อสื่อ สารต่างๆ โดยบริษัทให้คำมั่นว่าจะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อจัดให้มีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการแจ้งให้ท่านทราบถึง วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล , ฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง , ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม , แหล่งที่มา, ระยะเวลาของการเก็บรวบรวม และสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีนโยบายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ “ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผล

บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลายประเภท รวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ข้อมูลระบุตัวตนออนไลน์ (เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) คุกกี้ (Cookie) บัญชีโซเชียลมีเดียของท่าน เช่น Line, Instragram, Facebook เป็นต้น และบริษัทอาจเก็บรวบรวมใช้ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนาที่ระบุในสำเนาบัตรประชาชนของท่าน
ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชี Line, Instagram, Facebook เป็นต้น
ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรม (Transaction Data) เช่น หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขข้อมูลรายได้ ข้อมูลบันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร ข้อมูลการทำธุรกรรมผ่านผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ประวัติสินเชื่อ
ข้อมูลการทำงานหรืออาชีพ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน ข้อมูลการประกอบอาชีพ

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการโดยขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล ฐานในการประมวลผลข้อมูล
เพื่อการยืนยันตัวตนในการติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าและบริการของบริษัท
การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
เพื่อดำเนินการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เพื่อการสมัครของสินเชื่อกับธนาคารหรือผู้ให้บริการสินเชื่อ ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัทหรือตัวแทนของบริษัท
การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
เพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ของบริษัท การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท หรือติดต่อระหว่างลูกค้ากับบริษัท ในการ รับหรือส่ง เอกสาร สินค้า ใช้บริการ หรือติดตามทวงถาม
-การปฏิบัติตามสัญญา
-ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อประโยชน์ในการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ของบริษัท
-ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
-ความยินยอม
เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร การสอบสวนสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ หรือศาล
การปฏิบัติตามกฎหมาย
เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ
ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อแจ้งข่าวสารสิทธิประโยชน์และรายการส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด การเชิญชวนเข้าร่วมงานกิจกรรม การแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงการแจ้งเตือนโดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด
-ความยินยอม
-ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อการเปิดเผยให้แก่ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อของท่าน
-การปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา
-ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
เพื่อการเปิดเผยให้แก่บริษัทในกลุ่มบริษัทหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อการประชาสัมพันธ์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ สิทธิประโยชน์ และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ
ความยินยอม

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทดำเนินความสัมพันธ์กับท่านและให้บริการแก่ท่าน และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท

4. แหล่งที่มาของข้อมูล

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งต่างๆ ได้แก่

ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ขั้นตอนการซื้อสินค้าหรือบริการกับบริษัท ลงนามในสัญญาซื้อขาย ใบสมัครขอสินเชื่อ กรอกลงในแบบฟอร์มการส่งซื้อ ทำแบบสอบถาม ลงทะเบียนต่างๆ หรือขั้นตอนการยื่นข้อเรียกร้องหรือคำร้องขอใช้สิทธิต่างๆ
การติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น ทางเว็บไซต์ การติดต่อหน้าร้าน ทางโทรศัพท์ อีเมล โซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Line Account , Instagram หรือ Facebook เป็นต้น
บริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัท เป็นต้น

5. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผย

ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้

5.1 บริษัทย่อย บริษัทในเครือ บริษัทผู้ผลิตสินค้า และบริษัทที่เกี่ยวข้องใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานภายใน เสนอขายสินค้าและบริการอื่นๆ ที่ท่านอาจสนใจ รวมถึงดำเนินกิจกรรมอื่นใดตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัว

5.2 หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ กรมสรรพากร เป็นต้น

5.3 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ เช่น

ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร โรงพิมพ์ บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างทำวิจัย บริษัทรับจ้างพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ธนาคาร ผู้ให้บริการสินเชื่อ ในกรณีที่ท่านสมัครขอใช้บริการสินเชื่อผ่านบริษัท
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาใดๆ
5.4 พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (co-brand) พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท หรือบุคคลภายนอกตามความยินยอมจากท่าน หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย แล้วแต่กรณี

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน ดังต่อไปนี้

6.1 สิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือสัญญา ทั้งนี้การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ
อนึ่งในกรณีที่มีการถอนความยินยอมข้างต้น อาจส่งผลกระทบให้ไม่อาจจัดบริการงานบุคคลหรือประเมินความสามารถในการทำงานของท่านหรือรักษาความปลอดภัยแก่ท่านได้อย่างเต็มความสามารถหรือตามที่บริษัทฯได้แจ้งไว้ (“สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม”)

6.2 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ซึ่งในกรณีดังกล่าวบริษัทฯจะปฏิเสธคำขอในกรณีที่เป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล และการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น (“สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล”)

6.3 สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านจากบริษัทฯได้ ในกรณีที่บริษัทฯได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิ ดังต่อไปนี้ (“สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล”)

6.3.1 ขอให้บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
6.3.2 ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

ข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อนี้ ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลประเภทที่ต้องขอความยินยอมและท่านได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่กฎหมายกำหนดให้ท่านมีสิทธิ

การใช้สิทธิของท่านตามข้อนี้จะใช้กับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายไม่ได้ หรือการใช้สิทธินั้นต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น

6.4 สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน ในประเภทข้อมูลและเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดให้สิทธิเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯนั้น มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (“สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล”)

6.5 สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่บริษัทฯเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการไม่ปฏิบัติตามคำขอ (“สิทธิในการลบข้อมูล”)

6.6 สิทธิขอให้บริษัทฯระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้ (“สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล”)

6.6.1 เมื่อบริษัทฯอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านได้ร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
6.6.2 เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายเนื่องจากได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
6.6.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้
6.6.4 เมื่อบริษัทฯอยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์อันชอบด้วยกฎหมายในกรณีที่ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของท่าน

6.7 สิทธิให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยหากไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ บริษัทฯจะบันทึกคำร้องขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้ในรายการบันทึกรายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (“สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง”)

6.8 ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฯในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (แล้วแต่กรณี) รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอให้สิทธิต่างๆโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8 ของประกาศฯฉบับนี้ ซึ่งบริษัทฯจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำขอของท่านโดยไม่ชักช้า หรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้การใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยบริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำขอใดๆของท่านหากกฎหมายกำหนดให้สิทธิในการปฏิเสธดังกล่าว

7. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 บริษัทฯได้จัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรฐานรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศของบริษัทฯ

7.2 มีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

7.3 กรณีบริษัทฯทำความตกลงไว้กับบุคคลภายนอกในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อไปประมวลผล รวมถึงการพัฒนาและดูแลรักษาระบบ บุคคลภายนอกจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าวจะต้องตกลงรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเช่นกัน

8. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหากมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่อไปนี้

บริษัท เอสทีแอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด
สถานที่ติดต่อ 46 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ในอนาคต ทั้งนี้ตามความสมเหมาะและภายใต้กฎหมาย โดยการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขใดๆบริษัทฯจะประกาศให้ท่านทราบผ่านช่องทางที่เหมาะสมต่อไป

ให้ประกาศฯฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิกถอน